การทำนาโดยใช้จุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ มีดังนี้
การเตรียมแปลงเพาะกล้าและการเพาะกล้า
- อย่าเพาะให้กล้าแคระแกรน หรือวบเกินไป
- ก่อนเพาะกล้า เลือกเมล็ดลีบหรือครึ่งลีบออกให้หมด
- อย่าใส่จุลินทรีย์แห้งก่อนไถ หรือก่อนคราด จะทำให้กล้ารากลึก ทำให้ถอนยาก
- ควรใส่จุลินทรีย์แห้งหลังจากเตรียมพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โรยโบกาฉิให้ทั่วแล้วใช้ไม้ยาวๆ เกลี่ยปุ๋ยให้ทั่วพื้นดินก่อนทอดกล้า
- การเพาะกล้าจะใช้วิธีใดก็ได้ แต่ขอเสนอวิธีที่เป็นแนวทางได้ดังนี้
- แยกเมล็ดลีบ โดยการนำไข่สด ๒ ฟอง ใส่ในน้ำที่ใช้คัดเมล็ดลีบ เติมเกลือจนกระทั่งไข่ทั้ง ๒ ฟองลอย แช่พันธุ์ข้าวลงไปจะมีเมล็ดจมและลอย
- แยกเมล็ดลีบที่ลอยให้หมด นำเมล็ดพันธุ์ข้าวไปล้างน้ำให้หายเค็ม
- นำเมล็ดข้าวไปแช่น้ำ EM (EM + น้ำ ๕๐๐ เท่า) ไว้ ๖ ชม. จึงนำมาอบ หรือผึ่งในภาชนะที่ระเหยน้ำได้
- รดน้ำผสม EM ทุกวัน จนกระทั่งเมล็ดข้าวที่จุดขาวที่จมูกข้าว แสดงว่ารากเริ่มงอก
- นำไปผึ่งลมให้แห้ง แล้วนำไปหว่านในแปลงเพาะกล้าได้ อย่าปล่อยให้รากยาว
- เพิ่มน้ำในแปลงเพาะกล้าตามความจำเป็น อย่าให้ลึกเกินไป ต้นกล้าจะผอม
การเตรียมแปลงนาดำ ควรใส่จุลินทรีย์แห้ง ประมาณ ๑๐๐ กก./ไร่ ฉีดพ่น EM ขยายให้ทั่วด้วย หลังจากคราดแล้วหมักไว้ ๑๕ วัน หากมีหญ้างอกให้ฉีดพ่น EM ขยาย และไถคราดอีกครั้งเพื่อปราบหญ้า
- ลงมือปักดำได้
- ถ้า เป็นไปได้ไม่ควรใส่จุลินทรีย์แห้งอีก หากจำเป็นให้ใส่หลังปักดำไม่ต่ำกว่า ๑ เดือน เพราะช่วงนี้ต้นข้าวอยู่ระหว่างการเจริญเติบโต หากใส่จุลินทรีย์แห้งรากจะลอยทำให้ต้นข้าวล้ม หากใส่จุลินทรีย์แห้งก่อนไถหรือก่อนคราด รากข้าวจะหากินลึก ไม่ทำให้ต้นข้าวล้ม และการเพิ่มจุลินทรีย์แห้งบ่อยทำให้ข้าวงาม มีใบเยอะเช่นกัน และมีจำนวนเมล็ดน้อยลงด้วย
การใส่จุลินทรีย์แห้ง ควรพิจารณาดังนี้
- ใส่หลังเก็บเกี่ยว ฉีดพ่น EM ขยายแล้วไถกลบ หรือ
- ใส่ ก่อนการไถดำอีกครั้งถ้าจะเป็น หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่ต้องไถปราบหญ้าที่เกิดขึ้นให้กลายเป็นปุ๋ยด้วยการฉีดพ่นด้วย EM ขยาย อย่างเดียวก็ได้
การเตรียมแปลงนาหว่าน เหมือนการทำนาดำ คือ ควรใส่จุลินทรีย์แห้งหลังการเก็บเกี่ยวแล้วไถกลบฟางข้าวไว้หากจะทำนาปรังต่อ หลังไถกลบแล้วคราดด้วย หมักไว้ ๑๕ วัน เพื่อดูการงอกของวัชพืช หากมีฉีดพ่น EM ขยาย ไถ คราด อีกครั้ง จึงลงมือเพาะปลูก
การดูแลรักษาต้นข้าว
- ฉีด EM ขยาย เดือนละ ๑ ครั้ง
- หากมีศัตรูพืช ฉีดพ่นสุโตจูสัปดาห์ละ ๑ ครั้ง
- เมื่อข้าวออกรวงแล้ว จะฉีดพ่น EM ต้องใช้ EM ไม่ผสมกากน้ำตาล หากใช้ EM ขยายจะทำให้เมล็ดข้าวไม่สวย
- ฉีดพ่นสารสกัดจากยอดพืชด้วยเสมอๆ ก็จะให้ผลผลิตและต้นข้าวแข็งแรงดี
การเก็บเกี่ยว เนื่องจากข้าวธรรมชาติจะไม่แห้งหากพื้นนายังชื้นอยู่ จึงควรดูอายุของข้าวว่าควรเก็บเกี่ยวเมื่อใด ก็ดำเนินการตามนั้น
การปรับปรุงดินต่อเนื่อง หมายถึงว่า หากจะให้พื้นที่นาดีขึ้น หลังเก็บเกี่ยวควรใส่จุลินทรีย์แห้ง พ่น EM แล้วไถกลบเลยทีเดียว จนกว่าฝนจะตกมาก จึงไถดำหรือหว่านจะได้ฟางไว้เป็นปุ๋ย และดินได้มีโอกาสปรับปรุงให้ดีขึ้น พยายามให้นามีอินทรียวัตถุมากๆ เช่น ให้มีฟาง (ไม่ควรเผา) ให้มีหญ้าเพื่อใช้เป็นปุ๋ยธรรมชาติต่อไป งดใช้ยาฆ่าหญ้าโดยเด็ดขาด หากอินทรียวัตถุน้อย ควรหามาเพิ่มจะเป็นมูลสัตว์ด้วยก็จะดีมาก ครั้งแรกใส่จุลินทรีย์แห้งมากๆ อีก ต่อไปก็ลดลงได้
ผลดีของการใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ
- ปกติข้าวธรรมชาติปลูกด้วย EM จะไม่ล้มอยู่แล้ว
- การฉีดพ่น EM ควรฉีกพ่นให้ทั่ว หากให้ EM ด้วยการหยดไหลไปกับน้ำข้าวที่อยู่ห่างไกลจะมีความสมบูรณ์น้อย
- นาธรรมชาติ ข้าวที่ปลูกในร่มรำไรจะไม่มีเมล็ดลีบเหมือนปลูกด้วยปุ๋ยวิทยาศาสตร์